Sunday, June 6, 2010

ภาษิต คติธรรม คำสอน เดือนนี้

ดอกไม้งามไม่หอม ดอกไม้หอมไม่งาม


      การดำรงชีวิตประจำวัน ใช้คำว่า "ง่าย ๆ" ย่อมสบาย


ความรู้ทำให้รู้จักถ่อมตน ไร้ความรู้ทำให้จองหองอวดดี


      ความโกรธทำให้ตนเองรับทุกข์ทรมาน


คนโง่เท่านั้นมักอวดตนเป็นคนฉลาด


      สุภาพชนเหนือผู้อื่น อยู่ที่รู้จักนอบน้อมถ่อมตนเท่านั้น

Wednesday, June 2, 2010

G-mail กับการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

   การนำระบบ IT มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน เพราะฉะนั้นเราควรแบ่งเวลาศึกษานำมาใช้ในเกิดประโยชน์สูงสุด ระบบ e-mail จาก google ถือว่าเป็นระบบ e-mail ที่ประสิทธิภาพสูงมาก และที่สำคัญฟรีด้วย วันนี้จะแนะนำเกี่ยวกับการใช้และเครื่องมือต่างๆ ในการใช้งานสูงสุด คุณจำเป็นจะต้องมี account e-mail ของ google ก่อนเลย ถ้าไม่มีก็สมัครได้ ที่นี่ ซึ่งแน่นอนชื่อ e-mail ของคุณจะเป็น xxxxxxx@gmail.com คุณสามารถดูรายละเอียดวิธีการสมัครจาก ที่นี่ เมื่อได้ e-mail คุณก็ทำการ login เข้าไปสู่ระบบโดยจะมีรูปแบบการใช้งานโดยทั่วๆไปของระบบ web-base e-mail เหมือนกับ hotmail หรือ yahoo
    รายการข้างล่างนี้เป็นหัวข้อความสามารถต่างๆที่คุณสามารถที่จะใช้งานระบบ gmail ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับบางท่านอาจจะไม่รู้เสียด้วยซ้ำ
  • Google Calendar ระบบปฏิทินระบบงาน เหมือนที่คุณเคยใช้ใน Microsoft Outlook คุณสามารถใช้ในการกำหนดการตารางเวลาในการทำงาน หรือบันทึกสิ่งที่คุณทำไปในแต่ละวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสามารถดู รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือทั้งปี
  • Google Docs เป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเอกสารเหมือน Microsoft Word, Excel หรือแม้แต่ PowerPoint คุณสามารถสร้างเอกสารทั้งหมดข้างต้น โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเลย!!! 
     มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คน IT ใช้งานเท่านั้นแต่มันออกแบบมาให้คนทั่วๆไปใช้งานเพราะฉะนั้นเค้าได้มีการวิเคราะห์และออกแบบมาอย่างดี ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ลองใช้งานดูน่ะ :D

Sunday, May 16, 2010

การเลือกข้างใดข้างหนึ่ง

     ช่วงนี้หันไทางไปหนก็มีแต่เรื่องวุ่นวายในกรุงเทพฯ ปัญหาทางการที่สะสมมาตลอดระยะเวลา 6 ปีทำให้ประเทศไทยต้องหยุดชะงักและตกอยู่ในภาวะความขัดแย้งของคนในชาติ จนถึงเวลาสุกงอมพอที่จะต้องมีการจัดการด้วยกำลังและความรุนแรงเพื่อทำให้เกิดความสงบในบ้านเมือง
     ค่าของคนอยู่ที่ผลของงานจริงๆ ในขณะเดียวกันเมื่อน้ำลดต่อก็ผุด หลายๆคนเลือกที่จะอยู่ข้างใดข้างหนึ่งเพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ในขณะที่คนบางกลุ่มก็เลือกที่จะอยู่ตรงกลางแต่ถ้าดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาตลอดก็จะทำให้เห็นได้ว่า คนที่มีสติปัญญาดีๆ ก็จะสามารถเห็นสติปัญญาของผู้นำของทั้งสองฝ่ายได้ว่าใครมีความเป็นลูกผู้ชายตัวจริงมากกว่ากัน และน่าจะเข้าใจว่าควรจะอยู่ฝ่ายใด
    หลายๆคนเลือกที่จะอยู่ข้างใดก็เพียงเพราะข้างนั้นมีเรื่องที่ตรงกับแนวความคิดของตนเองเพียงเรื่องเดียวแล้วก็เลยเหมารวมและคิดว่านั่นแหละคือข้างที่เค้าจะร่วมหัวจมท้ายสู้ตาย จนลืมมองภาพรวมหรือความถูกต้องทั้งหลายที่เกิดขึ้น บางคนเลือกข้างเพราะแค่สะใจที่ได้มีเวทีหรือพื้นที่ให้ได้แสดงออกหลังจากเคยถูกกดดันและเคยถูกกระทำมาในแบบเดียวกันก่อนหน้านี้ จากปัญหาข้างต้นก็พอจะทำให้เรามองเห็นได้ว่าทำไมยังมีคนที่ไม่รู้เรื่องราวยังร่วมชุมนุม เพราะเค้าอาจจะเห็นแค่เรื่องของเค้าเห็นตรงกันเพียงเรื่องเดียวและเข้าใจเค้าพูดเรื่องเดียวกับเค้า นั่นแหล่ะจึงเป็นที่มาว่าทำไมคนบางคนหรือบางกลุ่มจึงเลือกที่จะยืนอยู่บนข้างที่ไม่ถูกต้อง เราคงต้องเห็นใจเพราะเค้าอาจจะถูกครอบงำให้เชื่อและไม่มีใครสามารถชี้แจงให้เค้าเข้าใจ ในขณะเดียวกันคนพวกนี้ก็เป็นคนประเภทไม่เปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นคนอื่น เพื่อคิดวิเคราะห์ถึงเหตุและผลของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
   อย่างไรเสียมีกลางวันก็ยังมีกลางคืน ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีหรือเชื่ออย่างที่เราเชื่อได้ทั้งหมด อย่างน้อยก็ขอให้ความเชื่อที่ถูกต้องสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด เพื่อที่เราจะได้ไม่ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับคนอื่นๆ และพยายามทำสิ่งที่ดีและมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นบ้าง

Thursday, May 13, 2010

โอกาศที่จะได้ทำสิ่งท้าทายในชีวิต (งานยากๆ)

    มีหลายๆคนเคยบอกว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน, อุปสรรค์มีไว้พุ่งชนหรือปัญหามีไว้ให้แก้ ผมเชื่อว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราสามารถเอาข้อความจากข้างต้นมาปรับใช้กับทุกๆเรื่องในชีวิตคนเราได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ชีวิตครอบครัว ความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ แต่ผลลัพธ์ของสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นตัววัดว่าถ้าเราไม่สามารถจะทำมันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในสายตาคนอื่นๆ หรือคิดถูกต้องในสายตาคนอื่นๆมันจะทำให้เรากลายเป็นคนไม่มีประสิทธิภาพหรือดูไม่ดีในสายตาคนอื่นๆ เพราะหลายๆเรื่องในชีวิตคนเราแต่ละคนนั้นไม่สามารถจะนำสมการทางคณิตศาสตร์มาเป็นตัวตัดสินได้ว่าเมื่อเกิดสิ่งนั้น(ปัญหา)ในชีวิตแล้วเราจะต้องทำแบบนั้นแล้วมันจะต้องได้รับผลลัพธ์แบบนี้เสมอไป
   หลายๆคนเลือกที่จะยอมแพ้หรือหมดความอดทน เพราะไม่สามารถรับได้หรือกดดันมากเกินไปกับชีวิตที่จะต้องมารับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเค้า บางคนเลือกที่จะแก้ไขปัญหาบางส่วนที่สามารถทำได้ในขณะนั้น บางคนเลือกที่จะตัดทิ้งปัญหานั้นออกไปเลย แล้วให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นๆที่มีความสำคัญกับเค้าในขณะนั้นก่อน จึงเป็นที่มาของการให้ลำดับความสำคัญของปัญหาต่างๆที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตของเรา เพื่อที่จะลดหรือไม่ให้ปัญหาเล็กที่ไม่สำคัญมาทำให้งานสำคัญหรือปัญหาที่ยากกว่าไม่สามารถทำงานได้ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนๆนั้นผ่านประสพการณ์ชีวิตในช่วงเวลาที่ยากๆมามากน้อยแค่ไหน อันนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับปัญหาเหล่านั้นได้สอนหรือเป็นบทเรียนที่สำคัญในชีวิตที่จะทำให้เค้าได้เรียนรู้และเข้าใจ แต่...ไม่ได้ให้ปลงแต่อยากให้ทำความเข้าใจถึงเหตุและผลว่า ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นได้อย่างไรและเราผ่านเรื่องเหล่านั้นผ่านมาได้อย่างไร ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นทางออกของชีวิตที่ดีที่สุดที่เราได้ลงมือทำไป ณ เวลานั้น เพราะปัญหาที่เข้ามาในชีวิตคนเรานั้นบางครั้งเราไม่สามารถกำหนดได้ เช่น เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าคนที่เรารักที่สุดกำลังจากจะจากเราไป เราไม่สามารถกำหนดได้ว่าในการทำงานเราจะต้องไปเจอกับปัญหาหรือเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าอย่างไร หรือแม้แต่เราเองก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าปัญหาที่เข้ามาหาเราในเวลานั้น ยังมีปัญหาตามเข้ามาให้เราแก้ไขอีก 2-3 ปัญหาตามเข้ามาติดในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นปัญหาในชีวิตของคนเราที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้ หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันยากหรือทรมานจะเหลือเกิน ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายๆคนที่กำลังเผชิญปัญหาที่ยากกว่าเราแล้วเค้าก็กำลังต่อสู้และพยายามจะต่อสู้ให้มันผ่านไปได้ เพราะถ้าวันนี้เราหนีปัญหาไปซะวันข้างหน้ามันก็อาจจะเกิดขึ้นอีก เพราะฉะนั้นหลายๆคนจึงเลือกที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาแล้วสู้กับมันถึงที่สุด จนคิดว่าไม่สามารถที่จะรับมือกับปัญหานั้นได้แล้วจึงจะยอมจำนนกับมัน เพราะเค้าอาจจะคิดว่าเราทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตข้างหน้าก็ยินดีจะรับกับมันได้

To be continue...

Monday, May 3, 2010

ภาษิต คติธรรม คำสอน เดือนนี้

หนทางนั้นเคี้ยวคด แต่เหตุผลนั้นเที่ยงธรรม

           ของมีพิษห้ามกิน ของผิดกฏหมายห้ามทำ


บุคคลชอบระแวงสงสัย ไม่ควรประกอบธุรกิจร่วมกัน


           การทำงานอย่าเอาแต่ทิฏฐิของตน ต้องเข้าใจเหตุผลของงาน


ปัญญาชนควรสนิทไว้ แต่หาใช่ว่าต้องตามเขาไปเสียทุกอย่าง

Sunday, May 2, 2010

กำแพงของภาษาอังกฤษบางกว่าที่คิด

     เชื่อว่าหลายๆ คนคงสงสัยว่ากำแพงของภาษาอังกฤษคืออะไร มันก็คือผนังที่กั้นเราจากโอกาศต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต รวมถึงโอกาศที่เราจะได้เปิดโลกเพื่อติดต่อ,ทำงานและเรียนรู้โลกให้กว้างออกไปอีก
     โลกเราปัจจุบันแคบลงเรื่อยๆ หลายๆคนมีโอกาศที่ดีในการเรียนตั้งแต่เด็กหรือมีโอกาศเข้าไปอยู่ในสังคมที่มีการใช้ภาษาอังกฤษตั้งแต่เริ่มต้นของชีวิต หรือแม้แต่มีความรักชอบและมีโอกาศได้เข้าเรียนหรือมีโอกาศได้ศึกษาต่อในต่างประเทศ ซึ่งครอบครัวสามารถสนับสนุนได้เต็มที่ จึงถือว่าเป็นโอกาศทองของชีวิตที่หลายๆคนอยากจะไค่วขว้าเอาไว้ แต่โอกาศๆดีก็ไม่ได้มีเหลือพอไว้ให้กับทุกๆชีวิตบนโลกนี้ หลายๆคนรวมทั้งผมเองก็เป็นอีกหนึ่งที่ไม่ได้มีโอกาศดีเหล่านั้นมากนัก แต่โชคดีที่คุณครูคนแรกได้สอนและสร้างแรงบันดาลใจให้รักและชอบภาษอังกฤษ จากวันนั้นเป็นต้นมาก็พยายามศึกษาแก้ไข, ปรับปรุงให้มันดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะไม่ได้หักโหมหรือจริงจังมากแต่ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง กลับทำให้เรามีพื้นฐานที่ดีมากขึ้น ทุกๆครั้งที่มีโอกาศก็จะกลับมาไปหาครูคนนั้น ท่านยังเป็นครูแม่พิมพ์ของชาติไม่เคยเปลี่ยน จิตใจที่รักการสอนและเมตตายังคงให้กับเด็กๆ เด็กบางคนก็เป็นลูกของลูกศิษย์ที่เคยเรียนกับครูมา เพราะหลายๆคนอยากให้ครูสอนลูกให้เหมือนกับที่สอนตัวเอง เพื่อหวังว่าจะให้โอกาศที่ดีกับเค้าบ้าง
    กลับมาที่เรื่องกำแพงของภาษา หลายๆคนอาจจะยอมแพ้กับความรู้ความสามารถทางภาษาโดยที่คิดว่ามันยากหรือว่าเรียนมาก็เยอะแต่ทำไมไม่เห็นพูดได้เลย บางคนก็ตัดพ้อว่ามันไม่มีโอกาศได้ใช้เลย บางส่วนก็ถูกน่ะ แต่ผมจะบอกข้อดีของความสามารถด้านภาษาอังกฤษให้พอสังเฃบ
  • โอกาศในการทำงาน - ใครๆก็รู้ว่าการมีโอกาศเข้าทำงานในบริษัทต่างชาตินั้นคุณสามารถที่จะมีรายได้เพิ่มอีก 2-3 เท่าของรายได้เมื่อเทียบกับบริษัทของคนไทย แต่มีข้อแม้ว่าบริษัทนั้นต้องทำธุรกิจระดับโลกหรือที่เค้าเรียกว่า Global company เพราะรายได้ของเค้าจะสูงมาก จึงทำให้สามารถจ้างพนักงานที่มีความสามารถสูงได้ แต่ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจเพราะคู่แข่งคุณก็เยอะมากขึ้นตามไปด้วย
  • โอกาศในการศึกษาและเรียนรู้โลกกว้าง - คงไม่มีใครปฏิเสธว่าอินเตอร์เน็ตนั้นมีความสำคัญมากคุณสามารถหาข้อมูลหรือความรู้อะไรก็ได้และในโลกของอินเตอร์เน็ต ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักด้วย เพราะฉะนั้นไม่มีข้อแม้ที่จะไม่เรียนรู้ภาษอังกฤษเพิ่มเติม
    คราวนี้มาดูกันว่าถ้าคุณสามารถก้าวข้ามกำแพงนี้ไปได้คุณจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ก็อย่างที่บอกว่าภาษาอังกฤษก็เป็นแค่เครื่องชนิดหนึ่งในการทำงานหรือใช้ชีวิต เหมือนกับวิชาชีพต่างๆที่คุณเรียนกันมาเพื่อออกไปทำงาน เพราะฉะนั้นในการทำงานจริงๆแล้วก็ยังจะต้องใช้ความสามารถของสติปัญญาในการคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาต่างๆอยู่ดี อีกทั้งปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกมากมายในระหว่างการทำงาน
   ดังนั้นคุณจึงควรมองภาษาอังกฤษเป็นเครื่องมือตัวนึงก็พอ อย่าไปมองว่ามันเข้าไม่ถึงหรือยากจนเกินไป ฝรั่งที่ได้เมียไทยยังพูดไทยสำเนียงลาวเล้ย นับประสาอะไรกับเราที่ไม่เคยใช้มาตั้งแต่เกิดหล่ะ เป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่อยากพัฒนาตัวเองต่อไปครับ.

Tuesday, April 27, 2010

ชีวิตต้องมีความหวัง

   ชีวิตทุกๆชีวิตในโลกนี้จะต้องมีความหวัง ถ้าไม่มีความหวังชีวิตก็เหมือนไร้ค่า คนเราที่มีชีวิตกันทุกๆวันนี้ หลังจากตื่นขึ้นมาแล้ว จะต้องมีเป้าหมาย มีความหวังว่าวันนี้จะต้องดีกว่าเมื่อวาน หวังว่าวันนี้รถจะติดน้อยหน่อย งานจะเหนื่อยน้อยหน่อย เงินเดือนจะขึ้นมากหน่อย แฟนจะต้องรักมากหน่อย ทุกๆงานในโลกนี้ล้วนจะต้องมีความหวังเป็นแรงผลักดันให้มันสามารถเดินไปด้วยพลังที่อยู่ภายในบุคคลนั้นๆ
   ลองหยุดคิดและมีสติรู้ตัวว่าวันนี้เรากำลังทำอะไร กำลังจะไปไหน กำลังอดทนเพื่อรออะไรบางอย่างแม้ว่ายังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่จำเป็นจะต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ ความสุขที่แท้จริงก็อยู่ที่ใจ ถ้าเราพอใจและมีความสุขกับสิ่งที่ทำไปในแต่ละวัน ก็ขอให้ทำใจให้สบาย อย่าไปทุกข์หรือกังวลหรือแม้แต่วิ่งเข้าหาสิ่งภายนอกที่คิดว่าจะช่วยให้เราลืมสิ่งที่ทำให้เราเศร้าหรือทุกข์ (เหล้า) เพราะยิ่งทำก็ยิ่งแย่ลงไปอีก ดื่ม..ไม่ใช่สิ่งที่ผิดแต่ให้ดื่มอย่างมีสติ สิ่งที่มันแย่ในชีวิตของเรามากพอแล้วอย่าให้มันแย่กว่านี้เลย
   ยิ่งรอนาน...ยิ่งทำให้เราเห็นค่าของสิ่งที่เรากำลังจะได้มา!!! เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่กำลังคาดหวังและรออะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตอนาคตอันใกล้

Sunday, April 18, 2010

หนังแนะนำเดือนนี้

"Night in Rodanthe" เป็นหนังรักโรแมนติก ประมาณว่าพ่อหนุ่มริชาร์ด เกียร์ เดินทางมาทำธุระแถว Rodanthe ซึ่งซึ่งมีโรงแรมอยู่ติดทะเล   ซึ่งเค้าได้จองไว้แล้ว ไดแอน เลน เป็นเพื่อนของเจ้าของโรงแรมซึ่งติดธุระ จึงมาดูแลแทน ทั้งคู่จึงได้มาพบกันโดยบังเอิญ แต่ทั้งคู่ก็ผ่านการใช้ชีวิตครอบครอบทั้งคู่ เธอพึ่งตัดสินแยกทางกับสามี มีลูกสองคน ส่วนริชาร์ดเองก็มีลูกชาย ริชาร์ดเป็นหมอใหญ่ (รวยๆๆ) มีเรื่องราวเกิดขึ้นหลายๆอย่างทำให้ทั้งคู่ได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน.



"Made of Honor" หนังพูดถึงเรื่องราวของเพื่อนชายหญิงที่เรียนด้วยกันที่ มหาวิทยาลัย คอร์แนลล์ พระเอกนั้นหล่อและเจ้าชู้มาก ส่วนนางเอกก็สวย ฉลาดและก็รู้จักพระเอกอย่างดี แต่ก็ไม่กล้าบอกว่าชอบเค้า จึงทำให้วันหนึ่งนางเอกไปเจอหนุ่มอีกคนแล้วกล้าขอเธอแต่งงานแล้วเธอก็แนะนำให้พระเอกรู้จัก จึงเป็นที่มาของเรื่องวุ่นๆ เมื่อพ่อหนุ่มเริ่มรู้สึกแปลกๆ






Saturday, April 10, 2010

Avatar - Pandora


เชื่อว่าหลายๆ คนคงได้ชมหนังเรื่อง Avatar กันมาบ้าง จะเห็นว่าสถานที่ใช้ในเรื่องนั้นสวยมากๆ ถึงแม้จะถูกสร้างมาด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค (CG) ทั้งหมด แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วสถานที่นั้นมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ด้วย มันอยู่ในประเทศจีนมีชื่อ จางเจียเจี้ย  (张家界 Zhang Jia Jie) 
อุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของจีนมาตั้งแต่ปี 1992







    ถ้ามีโอกาศก็น่าจะไปเที่ยวกันบ้างหนะ

หนังสือแนะนำเดือนนี้

"คิดอย่างนี้จึงรวย" เป็นหนังสือแปล แต่งโดย ดร.ริชาร์ด คาร์ลสัน เป็นหนังสือที่ขายดีติดอันดับของสหรัฐอเมริกานานหลายสัปดาห์ หนังสือพูดถึง 100 ข้อคิดเห็นและแนวทางการจัดการเงินที่มีประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตให้ร่ำรวยและมีความสุข แต่ละหัวข้อจะเป็นข้อคิดสั้นๆ ที่ส่งเสริมกำลังใจในการทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น บางคนอาจจะบอกว่าก็เหมือนๆกับเล่มอื่นๆ แต่ผมจะบอกว่าคุณควรมีเล่มนี้ไว้เป็นที่อ้างอิง และสามารถนำกลับมาอ่านใหม่เพื่อทบทวนเป้าหมายว่าคุณยังเดินถูกทางในทางที่กำลังจะก้าวเดินไปหรือไม่




"ผู้นำ ไฮสปีด" แต่งโดย ศรีศักดิ์ จามรมาน, ศ.ดร. หนังสือพูดถึงวิสัยทัศน์ในการนำเอาระบบไอทีเข้ามาปรับตัวและองค์กรให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศน์

หลวงพ่อเคลือบ จ.อุทัยธานี

    "หลวงพ่อเคลือบ" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกท่านที่ควรเคารพ สถานที่จะอยู่วัดหนองกระดี่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองไปประมาณ 30 กิโลเมตร


    ท่านมีประวัติที่น่าสนใจจนได้ชื่อว่าเป็นพระผู้ที่มีความเก่งกาจทางด้านคาถาอาคมและมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าบนบานกับท่านไว้ส่วนใหญ่แล้วจะได้เกือบทั้งหมด ส่วนใหญ่ของแก้บนที่เห็นจะเป็นเหล้าขาวกับมะขามเปียก บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็นเหล้าขาว เนื่องจากสมัยท่านยังมีชีวิตท่านมีกรรมเก่าจึงต้องทานเหล้าเพื่อแก้พิษ จึงทำให้มีเสียงวิจารณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา


ส่วนใหญ่ของที่หายไปแล้วจะได้คืนเกือบทั้งหมด ที่สำคัญเรื่องแก้บนจะต้องทำอย่างถูกต้อง ไม่ขี้โกงเด็ดขาด ถ้ามีโอกาศก็ควรจะไปกราบไหว้ท่านไว้บ้าง

Friday, April 2, 2010

ภาษิต คติธรรม คำสอน เดือนนี้

ผู้รอบรู้มักถ่อมตัว ผู้โง่เขลามักหยิ่งยะโส


             ความสามารถควรมีมาก แต่ปัญหาควรมีน้อย


บุรุษอัจฉริยะอยู่ที่ปาก อาชาดีอยู่ที่ฝีเท้า


             คนซื่อสัตย์พูดคำใดถือเป็นสัญญาคำนั้น


น้ำตาอิสตรีหลั่งออกมาได้ แม้ในเวลาที่หัวใจเธอหัวเราะ


             ล้อที่หมุนอยู่เสมอ ไม่เกิดสนิม


อดอย่างเสือ ดีกว่าอิ่มอย่างหมา

Monday, March 29, 2010

คนที่ได้รับการศึกษาที่ดี

    คนที่ได้รับการศึกษาที่ดี เป็นสัญญลักษณ์ของคนที่มีสติปัญญาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่ได้รับการศึกษามาดีหรือจบการศึกษาสูงๆจะเป็นคนที่ดีมีคุณธรรมกันทั้งหมด ในทางตรงกันข้ามคนที่ได้รับการศึกษามาน้อยกลับมาความจริงใจและมีคุณธรรมสูงกว่าด้วยซ้ำ ความหมายก็คือบางคนมีความรู้กลับแต่นำไปใช้ในทางที่ผิดหาช่องวางเพื่อเอาเปรียบผู้ที่ด้อยกว่าหรือยืนอยู่ผิดฝั่งจนนำความรู้ความสามารถไปใช้ในทางที่ผิดสร้างความเดือนร้อนวุ่นวายได้ เพราะฉะนั้นทำอย่างไรเราจึงจะสามารถสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้กับคนที่มีการศึกษา เรื่องนี้คงจะต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น


  • ครอบครัว
  • สังคมเพื่อนฝูงรอบข้าง
  • ทัศนคติของพ่อแม่ในการอบรมเลี้ยงดู
  • โรงเรียนและคุณครูในวัยเด็ก
    แต่ทุกปัญหาแก้ไขได้ถ้าตั้งใจ ยิ่งมีการศึกษาสูงแล้วก็น่าที่จะยิ่งเข้าใจอะไรได้ง่ายกว่าคนทั่วๆไป ขอให้มีสติยั้งคิดและทบทวนว่าสิ่งที่ท่านจะทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีและถูกต้อง คิดให้รอบด้านเปิดใจรับฟังข้อมูลใหม่ๆ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
   

Wednesday, March 24, 2010

มนุษย์ในยุคปัจจุบัน

     มนุษย์นั้นเกิดขึ้นมาหลายหมื่นปีแล้ว ช่วงเวลาต่างๆที่มนุษย์ผ่านมานั้นมีทั้งดีและไม่ดี ทำให้มนุษย์พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน หลายๆคนอาจจะคิดว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับปัจจุบันด้วยหล่ะ คุณลองมองย้อนกลับไปยังอดีต เมื่อ 50-70 ปีที่ผ่านมาว่า เราผ่านอะไรกันมาบ้าง ถ้าคุณได้ศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ คุณจะพบว่า ช่วง 50 ปีที่แล้วนั้นพวกเรายังอยู่ในยุคของสงคราม ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 คนที่เกิดขึ้นมาหรือมีช่วงชีวิตในขณะเวลานั้นคงจะต้องได้รับความยากลำบากในการใช้ชวิตอย่างมาก มันก็เหมือนกับคนสองกลุ่มที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกันและจะต้องรบพุ่งเพื่อชิงความถูกต้องที่คิดว่าตัวเองทำถูกต้อง โดยไม่คิดถึงความเดือดร้อนของคนอื่นๆ แต่อันนั้นมันเป็นระดับโลกนับประสาอะไรกับอีแค่คนในประเทศหนึ่งๆที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเอง
     หลังจากยุคสงครามพวกเราก็เข้าสู่ยุคของอุตสาหกรรม มีการผลิตเครื่องจักร,อุปกรณ์ไฟฟ้าและพาหนะต่างๆ ในการสร้างผลผลิตจำนวนมากเพือใช้ในการพัฒนาปรับปรุงประเทศของตัวเองหลังจากสงคราม จึงเกิดคำหนึ่งที่เรียกว่า เบบี้บูมเมอร์ คือผลผลิตและเกิดขึ้นของคนจำนวนมากหลังจากภาวะสงครามเพราะมีการเสียชีวิตของคนจำนวนมาก
     และหลังจากนั้นก็เกิดยุคของข้อมูลข่าวสารหรือโลกาภิวัฒน์ อันเนื่องมาจากการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์,คอมพิวเตอร์และการสื่อสาร ทำให้โลกแคบลงไปถนัดตา สิ่งของและเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆได้ถูกสร้างและผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ จนเกินความจำเป็น ผมขอยกตัวอย่าง
  • เครื่องคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันนี้คุณจะเห็นได้ว่า ราคาของเครื่องถูกลงอย่างมากแต่ประสิทธิภาพกลับสูงขึ้นจนเหลือเฟือ ขนาดพื้นที่ในการเก็บข้อมูลก็มากจนไม่รู้จะเก็บอะไรแล้ว
  • ระบบการติดต่อสื่อสารของมนุษย์ ก็มีทางเลือกมากขึ้นจนสามารถรู้ได้แม้กระทั่งคุณเดินอยู่ตรงไหนของโลก
  • ระบบโทรทัศน์ก็มีการพัฒนามากจนมีระบบ HD (High Definition) ความละเอียดสูงมองจนทะลุรูขุมขน ขนาดจอก็ใหญ่จนจะคับบ้านแล้ว (ก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องดูให้ได้ขนาดนั้นเพื่ออะไรฟ่ะ)
   ยังมีอีกหลายอย่างที่ผมไม่ได้พูดถึง คุณลองคิดดูแล้วกันว่าอะไรที่คุณรู้สึกว่าเรายังไม่มีเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในยุคนี้ เรามีแต่ความต้องการอยากได้อยากมี ใช้ทรัพยากรของโลกอย่างไม่เคยกลัวว่าจะหมด แข่งกันวัดความเจริญและความสุขด้วยตัวเลขดัชนีต่างๆ เช่น หุ้น GDP กำไรขาดทุน จนลืมไปว่าพวกเราเกิดมาเพื่อทำอะไรกัน แต่โลกนี้ก็คือธรรมชาติ อะไรที่มันไม่สมดุลย์ก็จะต้องถูกปรับให้มันสมดุลย์ เช่น
  • มนุษย์ล้นโลกแย่งกันกินแย่งกันใช้ ก็ทำให้เกิดแผ่นดินไหวหรือซึนามิหรือโลกระบาด เพื่อให้มนุษย์เสียชีวิตคราวละมากๆ
  • ทำลายธรรมชาติตัดไม้ทำลายป่า ก็ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก โลกร้อน ขาดแคลนน้ำ คาดว่าจะเกิดสงครามแย่งน้ำกันอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำมันแพงกว่าน้ำทั้งๆ ที่มนุษย์ต้องกินน้ำ สงสัยเราคงต้องคิดใหม่กันแล้ว :D
      ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ดีจังที่เราได้เกิดมาในยุคนี้ เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างมากในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และก็มั่นใจว่าเราจะยังได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุคของเราซึ่งในศาสนาพุทธเรียกว่า กลียุค คุณลองไปคิดดูว่าช่วงชีวิตของคุณที่เหลืออยู่จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์คนรุ่นหลัง หรือนั่งรอคอยวันสุดท้ายของโลกหายใจทิ้งไปวันๆ แล้วกอบโกยทุกๆอย่างจากโลกนี้ไป.

Wednesday, March 17, 2010

สติ คืออะไร

   "สติ" คืออะไรนั้น หลายๆคนคงจะรู้มาบ้างไม่มากก็น้อย เราคงคุ้นเคยเพราะเราได้อยู่ในพระพุทธศาสนา บางคนอาจจะคิดถึงการบวชเป็นพระ การนั่งสมาธิ การฝึกวิปัสนากรรมฐาน  การเดินจงกรม อื่นๆ อีกมากมาย นั่นก็เป็นวิธีการต่างๆ ที่จะทำให้เราสามารถฝึกฝนจิตใจเราให้อยู่กับตัวเรา สามารถรู้เท่าทันความรู้นึกนึกคิด รู้จักผิดชอบชั่วดี ระงับสิ่งที่ต่างๆที่ไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ดับไปอย่างรวดเร็ว การมีสติยังช่วยให้เรายั้งคิดยั้งทำเรื่องต่างๆทั้งดีและไม่ดีว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรทำ โดยเฉพาะการคิดไตร่ตรองก่อนที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆในชีวิตให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องและมีความผิดพลาดให้นอยที่สุด เราจะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังเราว่าไม่น่าพูดแบบนั้นหรือทำแบบนั้นออกไปเลย เพราะเราคงไม่สามารถกลับไปแก้ไขอดีตที่ผ่านมาแล้วได้
    สำหรับผมวิธีในการฝึกสตินั้นก็ไม่ได้ใช้วิธีการที่ซับซ้อนหรือจะต้องพาตัวเองไปหาบุคคลหรือไปยังสถานทีๆเอื้ออำนวยให้เกิดการฝึกเช่น วัดหรือสถานปฏิบัติธรรมที่เป็นที่รู้จักเลย ในทางตรงกันข้ามผมกลับสามารถใช้ทุกๆ สถานที่ๆผมเดินทางหรือที่บ้านก็สามารถที่จะฝึกสติได้ตลอดเวลา ผมจะลองยกตัวอย่างวิธีที่ผมใช้ให้ลองเอาไปฝึกกันดูบ้าง
   เนื่องจากผมจะต้องเดินทางไปทำงานในทุกๆเช้าอยู่แล้ว การตื่นเช้าจึงเป็นนิสัยปรกติของคนทั่วๆไปที่อาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย แย่งกันกินแย่งกันใช้ ต่างๆคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละคน ชีวิตซึ่งหลายๆคนรวมถึงผมก็คงรู้ว่ามันช่างเร่งรีบ สับสนวุ่นวายขนาดไหนในตอนเช้า ผมไม่ได้ขับรถไปทำงาน(ก็ไม่มีไง :D) บังเอิญสถานที่ทำงานของผมนั้นสามารถเดินทางได้ด้วยระบบขนส่งมวลชนต่างๆ ที่มีให้บริการอยู่แล้ว รถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน เวลาส่วนหนึ่งจึงต้องอยู่อยู่บนนั้นอย่างน้อยก็วันละเกือบๆ 2 ชั่วโมง ผมเลือกที่จะโดยสารด้วยรถเมล์ปรับอากาศ เพราะสะดวกและเย็นสบายดีในตอนเช้าก็มีโอกาศได้นั่งบ้าง ในขณะนั่งรถไปทำงานตอนเช้านั้นผมก็จะนั่งหลับตาหรือหลับไปเลยก็ได้ ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น แต่รู้ตัวตลอดน่ะ ไม่ใช่นั่งหัวโขกกับคนข้างๆ การหลับตานั้นช่วยให้เราไม่ต้องรับรู้สิ่งที่เข้ามากระทบ เช่น ผู้คนที่เข้ามาเบียดเสียดกัน รถติดข้างนอก คนสวยคนหล่อที่อาจจะทำให้เราคิดไปไกลเกินฝันเพ้อเจ้อ :D จิตใจเราก็จะสงบไปโดยปริยาย เมื่อคุณลืมตาขึ้นคุณจะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างในตัวคุณว่า มันทำให้คุณมีสติในการก้าวเดินต่อไปหลังจากลงรถโดยสาร เพราะคุณสามารถรู้ตัวตลอดขณะนั่งรถมา
 * ผมไม่เลือกที่จะฟังเพลงขณะเดินทาง หลายๆ คนเมื่อขึ้นมาบนรถก็จะเสียบหูฟังแล้วก็เปิดเพลงที่ชอบ ดัง แล้วก็ชิลล์ๆ ไป ผมเองก็เคยทำน่ะ แต่ตอนหลังเลิกแล้วเพราะรู้มาว่ามันไม่ดีกับระบบการได้ยิน ในการฟังเพลงก็ยังทำให้เราปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับเสียงเพลงและจินตนาการ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณฟังเพลงอะไรอีก นั่นยิ่งทำให้สติของคุณไม่อยู่กับตัวเข้าไปใหญ่

To be continuous...

Monday, March 15, 2010

จักรวารของเรา - Our Universe II

   จากบทความที่แล้ว เราก็ได้เห็นแล้วว่าสิ่งที่มนุษย์ทำการค้นหาจากนอกโลกนั้น เราก็ยังไม่สามารถที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่นอกโลก หรือสถานที่ๆจะมีสิ่งมีชีวิตใกล้เคียงมนุษย์ จะมีก็แต่เพียงรูปแบบของการระเบิดต่างๆ ที่มีแสงและสีที่ยังไม่มีมนุษย์คนใดอธิบายได้ว่ามันคืออะไร ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีใครเดินทางเข้าไปถึง
 


     หรือหว๋ารูปที่พวกเราได้เห็นนี้คือ สถานที่ๆอยู่อาศัยของสสารบางอย่างที่มีพลังงานบางอย่างแต่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าว เพราะเรามองด้วยสายตาของมนุษย์ ถ้าอาศัยจินตนาการแบบเบลอๆ ของผม หรือว่าสิ่งที่เราเห็นจะเป็นสถานที่ๆพระพุทธเจ้าท่านเคยกล่าวถึงในเรื่องของสวรรค์ชั้นต่างๆ ที่มีแสงสว่างสุกสกาวที่เรียกชื่อต่างๆ กันออกไปเช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลองหัดใช้จิตนาการแบบไร้ขอบเขต ไม่มีเขตกั้นของวิทยาศาสตร์มาเป็นตัววัด ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วปล่อยใจให้ล่องลอยไปบ้าง...
   โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านบทความชิ้นนี้.. :D

Thursday, March 11, 2010

Linux - ลีนุกซ์ คืออะไร part III

   หลังจากที่เราก็ได้รู้ไปแล้วว่าลีนุกซ์มันคืออะไร ต่อไปเราจะมาดูว่าแล้วมันจะเอามาใช้งานอย่างไร (นึกไม่ออกง่ะ) ก็ขอให้คุณลองนึกถึงเครื่อง Apple Mac, MacBook Air ที่คุณได้มีโอกาศเข้าไปเล่นที่ Istudio ดูบ้างแล้วคุณจะพอเห็นภาพ
   มันก็จะมีหน้าตาและวิธีการใช้งานที่ต่างออกไปจาก WindowsXP(R), Vista , 7 ไง เริ่มจากระบบเมนูในการเรียกใช้งานโปรแกรมต่างๆ ก็จะเห็นว่าแตกต่างจากกัน วิธีการเข้าใช้งานโปรแกรมก็ต่างกัน ที่สำคัญมากๆ คือโปรแกรมบนเครื่อง Apple Mac ส่วนใหญ่เราก็จะไม่เห็นหรือเคยได้ใช้บนเครื่อง PC ที่ทำงานด้วย Windows เลย (อาจจะมีบางโปรแกรมที่ทำงานได้ทั้งสองระบบ) เรามาดูหน้าตาหรือที่เราเรียกว่ากราฟฟิคยูซเซอร์อินเตอร์เฟส GUI(Graphic User Interface) ของแต่ละระบบกันดู

Microsoft Windows7(R)


Apple Mac

      คุณพอจะมองเห็นภาพแล้วใช่หม่ะว่าแต่ละระบบนั้นมีหน้าตาหรือวิธีการใช้งานเบื้องต้นเป็นอย่างไร จริงๆ แล้วเจ้าโปรแกรมที่ทำงานทั้งหมดนี้มันก็คือ Operating System (OS) ที่ผมเคยได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้แล้ว มันก็เป็นเพียงแค่วิธีการหรือรูปภาพหน้าตาที่เอาไว้ให้ผู้ใช้ได้ติดต่อสั่งงานเจ้าคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของงาน ( จดหมาย, รายงาน, ตารางคำนวณ, รูปภาพ, ดูหนังฟังเพลง ) ออกไปก็เท่านั้น คราวนี้อ้าวแล้วลีนุกส์ไปไหนซะหล่ะ คุยมาตั้งนานไม่เห็นโชว์เลย :D อ่ะเป็นคำถามที่ดี บังเอิญผมพยายามหารูปหน้าจอของลีนุกส์ที่บ่งบอกความเป็นลีนุกส์นั้นยากมากๆๆๆๆ เพราะถ้าอยากให้มันมีหน้าตาเหมือนใครมันก็ทำได้ไง งงหม่ะ :D ก็อย่างที่บอกว่าพวกนี้มันก็คือโปรแกรมหนึ่งเท่านั้น ซึ่งลีนุกส์มันเป็นของฟรีที่ใครๆเค้าก็สามารถนำไปใช้และพัฒนาได้จึงมีคนหลายๆกลุ่มซึ่งมีความคิดแตกต่างกันออกไปได้พัฒนารูปแบบและวิธีการใช้งานลีนุกส์ที่แตกต่างกันออกไป เช่นบางกลุ่มก็จะฉีกแนวแบบว่าอาร์ตตัวพ่อล้ำกว่า WindowsXP เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วจนเป็นที่มาของรูปแบบที่เค้าเรียกว่า Looking Glass หรือ Transparent User Interface ในขณะที่บางกลุ่มก็มองที่ความคุ้นเคยของกลุ่มคนใช้เพราะว่าเคยใช้ WindowsXP มาก่อนจึงเป็นที่มาของการทำหน้าตาให้เหมือน WindowsXP ให้มากที่สุดท่าที่จะทำได้เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด บางกลุ่มก็จะขัดแย้งโดยให้ความเห็นว่าไม่เห็นจะต้องตาม Windows เลย (เดี๋ยวก็โดนเรื่องลิขสิทธิ์หรอก) แต่ก็ยังยึดๆ แนวทางการใช้งานเบื้องต้นไว้

Linux
       อ่ะในที่สุดก็ได้แล้ว ผมคิดว่าอันนี้น่าจะใกล้เคียงที่สุดแล้วน่ะ ของความเป็นลีนุกส์น่ะ :D


Wednesday, March 10, 2010

แนะนำหนังดีให้แง่คิดเดือนนี้

"The English Patient" เป็นหนังเก่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เป็นหนังที่พูดเรื่องของความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่ไปหลงรักกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีแล้ว ทั้งสองมีความรู้สึกรักตั้งแต่แรกพบทำให้ทั้งสองหาโอกาศที่จะได้อยู่ร่วมกัน จนวันหนึ่งสามีได้รู้ความจริงหลังจากที่ได้สะกดลอยตามไป ตัวละครในเรื่องมีหลากหลายตัวที่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องนี้ ทำให้เราอาจจะได้แง่คิดว่าบางครั้งความรักก็ไม่สามารถที่ลงท้ายด้วยความสุขเสมอไป







"The Gataway" เป็นหนังเก่าเช่นเคย หนังพูดถึงหนุ่มสาวที่ทำงานในด้านมืดในการหาเงิน วันนึงทั้งคู่ตัดสินใจที่จะทำงานสุดท้ายแต่พลาดแฟนหนุ่มถูกจับเข้าห้องขัง แฟนสาวจึงต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แฟนหนุ่มกลับออกมาให้ได้ เธอจึงทำบางอย่างซึ่งเป็นคุณคิดว่าคุณจะรับมันได้หรือไม่? เนื้อเรื่องของหนังสนุกมาก ทั้งฉากต่อสู้หรือฉากรัก :) ลองไปหามาดูกันน่ะ









"A Few Good Men" เป็นหนังเก๋าเก่า ที่น่าสนใจเรื่องนึง หนังพูดถึงเรื่องนายทหารหนุ่มทางกฎหมายคนหนึ่ง (ทอม ครูซ) ได้เข้ามารับหน้าที่ในการตัดสินและหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงโทษทางวินัยของทหารซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแต่เค้าต้องมาเจอกับกระดูกท้อนใหญ่เข้าอย่างจัง เค้าได้สาวสวยอย่าง (เดมมี มัวร์)มาเป็นผู้ช่วย บทสนทนาบางช่วงอาจจะทำให้คุณสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอันแรงกล้าที่เค้าพยายามต่อสู้เพื่อความถูกต้อง อาจจะได้แรงบันดาลใจว่า บางครั้งการต่อสู้เพื่อความถูกต้องกับคนที่มีอำนาจอาจจะไม่ง่ายนักจึงจำเป็นที่คุณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วขยี้มันให้แบนไปเลย :D

หนังสือแนะนำเดือนนี้

"วาทะดังตฤณ ฉบับ ความรักหลากสี" เป็นหนังสือที่พูดถึงความรักกับความรู้สึกต่างๆ ที่มีและเปรียบเทียบความเป็นจริงกับหลักการทางพุทธศาสนาเรื่องกรรมดีและกรรมชั่ว หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบคุณอาจจะได้นิยามความรักแบบใหม่ที่ไม่เคยได้รับรู้มาก่อน มีเนื้อหาออนไลด์ให้ อ่านฟรี








"90 วัน (กับเป้าหมาย ที่มากกว่าคำว่าลดน้ำหนัก)" เป็นหนังสือที่ผู้ชายที่มีน้ำหนักตัวที่อวบระยะสุดท้ายก่อนจะระเบิด :D ควรจะนำมาอ่านและเป็นแรงบันดาลใจในการที่จะมีรูปร่างและสุขภาพที่ดี ผู้แต่งนำประสพการณ์ของตัวเองในอดีตซึ่งมีขนาดน้ำหนักตัวที่สูงมาก จนคุณไม่อยากจะเชื่อว่าเค้าจะสามารถกลับมามีรูปร่างดังที่เห็น (นายแบบชัดๆ) ผู้ชายส่วนใหญ่ที่อ้วนมากๆ จากที่เคยมีรูปร่างดีส่วนใหญ่จะมีปัญหามากจากเรื่องผู้หญิง ความรัก ประมาณว่าไม่สมหวังหรือผิดหวังอะไรซักอย่างแล้วเครียด การกินการดื่มจึงเป็นอีกหนึ่งทางออกในการหาความสุขให้กับตัวเอง เป็นกำลังใจให้ครับ

Sunday, March 7, 2010

ภาษิต คติธรรม คำสอน เดือนนี้

ระยะทางพิสูจน์กำลังม้า กาลเวลาพิสูจน์จิตใจคน


              อย่ารังแกคนยากจน อย่ายิ่งยะโสในความมั่งมี


อย่าเป็นคนเห็นแก่ตัว การเห็นแก่ตนย่อมประสบภัยอันตราย


              ยามมีอำนาจอย่าเหลิง ยามมีสุขก็อย่าหลงระเริง


ผู้รอบรู้มักถ่อมตัว ผู้โง่เขลามักหยิ่งยะโส

คนฉลาด?

     คนฉลาด ชื่อก็บอกอยู่แล้วน่ะว่าคนมันฉลาดแล้วฉลาดอย่างไร? :D หลายๆ คนอาจจะคิดว่าคนฉลาดก็ดีแล้วนิ๊ เค้าคงเก่งน่าดู, IQ คงจะสูงมากๆ อันนั้นก็ถูกน่ะส่วนใหญ่เวลาเราพูดถึงคนฉลาดเราก็มักจะมองหรือมุ่งตรงไปที่เรื่องของสมองที่ใช้ในการคิดคำนวณ ทำข้อสอบได้คะแนนสูงๆ มากกว่าคนทั่วๆไป แต่ความฉลาดที่ผมจะพูดถึงวันนี้จะไม่เกี่ยวกับสมองซีกซ้ายแต่จะพูดถึงสมองซีกขวา นั่นคือความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) บางคนอาจจะคิดว่าแล้วมันเป็นไงหล่ะ หรืออาจจะบอกว่าก็เห็นหนังสือหลายๆเล่มก็พูดถึงอยู่แล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเลย ส่วนใหญ่ก็ให้ทำข้อสอบแบบว่าแบบทดสอบทางด้านอารมณ์
       ความฉลาดทางอารมณ์นั้นจริงๆก็คือ คนที่มีความสามารถเข้าใจ, รู้เท่าทัน, แก้ไขปัญหาของอารมณ์หรือความรู้สึกที่เข้ามากระทบจากภายในตัวเองและจากภายนอกให้มีความสุขและสงบ แล้วมันคืออะไรหล่ะ? ผมจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
การแก้ไขปัญหาทาง IQ
       คุณกำลังจะขับรถจากบ้านไปถึงที่ทำงานเป็นระยะ 12 กิโลเมตร เมื่อคุณขับไปได้ 4 กิโลเมตร คุณนึกขึ้นได้ว่าลืมของจึงต้องกลับมาเอาของที่บ้าน ปรากฏว่าคุณขับรถเลยบ้านไป 2 กิโลเมตร ถามว่าตอนนี้คุณอยู่ห่างจากที่ทำงานกี่กิโลเมตร?
คำตอบคือ 14 กิโลเมตร
การแก้ไขปัญหาทาง EQ
       คุณกำลังทำงานที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบกับคนจำนวนมาก ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ ในขณะเดียวกันก็มีคนที่ได้รับผลกระทบนั้นได้เข้ามาหาคุณและได้สอบถามว่าเมื่อไหร่จะแก้ไขเสร็จเพราะเค้ามีงานด่วนที่สำคัญมากต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ชั่วโมงนี้ คุณจะตอบกลับเค้าไปอย่างไร หรือจะทำอย่างไร?
คำตอบคือ คำตอบของ EQ นั้นไม่มีคำตอบที่ตายตัวน่ะครับเพราะมันเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก บางคนอาจจะกดดันจากปัญหาที่เกิดขึ้นจนไม่สามารถทำอะไรได้เลย ในขณะที่บางคนอาจจะตอบกลับไปว่า ขอเวลาอีกนิดครับตอนนี้กำลังพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเร็วที่สุดครับ บางคนอาจจะสวนกลับไปว่ามันแก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะว่าปัญหานี้เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยเพราะไม่ใช่ปัญหาของเรา

จากคำตอบของ EQ จะเห็นได้ว่ามันมีความไปได้ที่คำตอบของปัญหานั้นๆ มีความหลากหลายแต่สิ่งที่สำคัญคือ เราจะจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกของเราและคนอื่นๆ ให้อยู่ในความสงบและพอใจของทั้งสองฝ่ายได้อย่างไร ถ้าเราสามารถจัดการปัญหานี้ให้มีความเรียบร้อยและได้รับความพอใจของทั้งสองฝ่ายนั่นแสดงว่า เราสามารถจัดการกับความรู้สึกทางอารมณ์ของเราและคนอื่นได้

คุณหล่ะ คิดว่าจะตอบอย่างไร

Tuesday, March 2, 2010

คนจนกับคนรวย - What's a difference?

    คนจนกับคนรวยแตกต่างกันตรงไหน? เคยมีคนสังเกตุหรือไม่ว่ามนุษย์โลกที่เกิดมานี้มีจำนวนนับหมื่นนับล้านๆ คน ทำไมจึงมีความแตกต่างกันทางด้านความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิต คุณภาพของสังคมที่เค้าอาศัยอยุ่ หรือแม้แต่ความคิดในการทำงาน
    บางคนอาจจะเถียงว่าก็ไม่เห็นจำเป็นต้องรวยเลยแค่มีชีวิตพอเพียงก็พอแล้ว นั่นอาจจะเป็นแค่คำข้อแก้ตัวของใครบางคนที่ไม่สามารถที่จะทำให้ตัวเองมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นหรืออาจจะเป็นเพราะว่าเค้าเห็นคนรวยส่วนมากไม่ค่อยจะมีความสุขหรืออาจจะเป็นคนไม่ดีที่ชอบเอารัดเอาเปรียบคนจนที่ด้อยกว่าก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดๆก็แล้วแต่ การมีทรัพย์อย่างพอเพียงหรือมากจนเหลือที่จะเอาไปแบ่งปันให้กับคนอื่นๆที่เค้าไม่มีแม้แต่จะใช้ในการดำรงชีวิตประจำ เราคงไม่ต้องมองไกลออกไปภายนอกหรือประเทศอื่นๆ ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือแม้แต่ความยากจนขัดสนในประเทศซึ่งอาจจะไม่มีทรัพย์พยากรทางธรรมชาติอย่างเพียงพอในการที่จะมีเพียงปัจจัยสี่ ที่อยู่อาศัย อาหาร เสื้อผ้า และ ยารักษาโลก หรือแม้แต่น้ำดื่มสะอาดๆ เรามาดูแลคนในประเทศที่อยู่ใกล้ๆตัวเราดีกว่าไหม

    หลายคนอาจจะบอกว่าก็เราไม่ได้เกิดมารวยนิ๊หรือว่าชาติที่แล้วไม่ได้ทำบุญมาดีพอ บางส่วนอาจจะถูกเราทุกๆคนคงจะเลือกเกิดไม่ได้จริงๆ แต่เราก็สามารถที่จะเลือกเดินชีวิตของเราได้ แม้ว่าตอนนี้คุณอาจจะยังไม่มีกำลังเพียงพอที่จะคิดหรือทำอะไรบางอย่างในขณะนี้ แต่ขอให้คิดเสมออยู่ในจิตใต้สำนึกว่า วันหนึ่งเรา
จะต้องมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้จงได้และตั้งใจทำงานหาทรัพย์มาเป็นเครื่องเลี้ยงชีพให้พอเพียง บางคนอาจจะบอกว่าตัวเองนั้นมีภาระหน้าที่ต้องคอยสนับสนุนหรือดูแลคนในครอบครัวอีกหลายชีวิต แต่นั่นก็ยิ่งเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตของคุณมีพลังในการเดินไปในแต่ละวันและยังทำให้มันมีคุณค่าสูงสุดในการทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ผมมั่นใจว่าคนที่ได้ทำดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นในอนาคตต่อไปข้างหน้าเค้าจะต้องเป็นคนที่ประสพความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน "ไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ต้องการและก็ไม่มีอะไรได้มาอย่างง่ายในชีวิตคนเรา" ขอให้มีความพากเพียรและตั้งใจทำต่อไป วันนี้อาจจะไม่มีใครเห็นใจหรือช่วยเหลือคุณแต่วันนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะอีก 5-10 ปีข้างหน้าหลายๆอย่างอาจจะเปลี่ยนไปจนคุณอาจจะประหลาดใจว่า คุณมาไกลถึงเพียงนี้แล้วหร๋อ นั่นก็เป็นเพราะความตั้งใจและความเพียรที่คุณได้พยายามที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นฝังอยู่ภายใต้จิตสำนึก ซึ่งจะมีคนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี๋ยวพอที่จะยืนยันที่จะมีอุดมการณ์ในการพัฒนาตัวเองให้มีความก้าวหน้าทั้งในสายงานและอาชีพ ไม่แน่อาจจะมีคนเฝ้ามองคุณอยู่ก็ได้
    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมได้ค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้คนจนกับคนรวยต่างกันนั้นมีอยู่เพียงสิ่งเดียวที่เราจะต้องเพียรพยายามในการทำให้เกิดความเคยชิน สิ่งนั้นคือ ความขยัน หลายๆ คนอาจจะบอกว่าแหมก็แน่อยู่แล้วน่ะ ก็จริงแต่จะมีซักกี่คนที่เข้าใจความหมายที่แท้จริงและทำให้ถูกต้อง ผมจะเปรียบเทียบให้เห็นว่า ความขยันที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง
    คนรวยนั้น ขยัน....
  • ตื่นแต่เช้า
  • ทำความสะอาดร่างกายและจิตใจ
  • กินอาหารเช้า   
  • ทำงานแต่เช้า
  • อ่านหนังสือ
  • พบเจอผู้คนดีๆ
  • หาของกินดีๆบำรุงร่างกาย
  • ออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ
  • ทบทวนที่สิ่งทำมาตลอดทั้งวัน
  • หาความสุขใส่ตัว
  • ท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ที่สวยงาม
  • แบ่งปันความรู้สึกดีให้กับคนอื่นๆ
  • ช่วยเหลือคนอื่นที่ด้อยกว่าตนทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
  • ผักผ่อนให้เพียงพอ
  • มองโลกอย่ามีความหวังและความฝัน
ขอให้ทุกคนโชคดีและทำตามความฝันสูงสุดที่ตั้งใจครับ

Sunday, February 28, 2010

Bangkok Motor Bike Festival 2010 at CentralWorld

โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชายก็จะชอบพวกเครื่องจักรกล มอเตอร์ไซต์ รถยนต์ เครื่องบิน อยู่แล้ว เมื่อประมาณปลายๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมามีการจัดงานแสดงรถมอเตอร์ไซต์รุ่นใหญ่ๆ สวยๆ มากมาย มาดูกันว่าคันไหนถูกใจคุณ






 





เห็นแล้วอยากได้ๆๆๆ :P

จักรวารของเรา - Our Universe

       จักรวารคืออะไร ผมคิดว่าหลายๆคนคงเคยได้เรียนรู้มาบ้าง เราอาจจะคิดว่าไกลเกินเอื้อมที่จะต้องไปสนใจ เพราะจริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องที่ไกลตัวมากจริงๆด้วย จะมีก็เพียงแต่คนกลุ่มหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า นักวิทยาศาสตร์ นักดาราศาสตร์ ที่กำลังศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อหาที่มาว่าจักรวารเกิดขึ้นมาได้อย่างไร มีอะไรอยู่นอกโลกบ้าง, พยายามหาสิ่งมีชีวิตที่เหมือนหรือต่างจากเราหรือแม้แต่ฉลาดกว่าเรา มนุษย์ต่างดาวก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง หรือสามารถมีสิ่งที่ยืนยันได้ว่าเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง มีหนังสือมากมายพยายามพูดถึงหลักฐานต่างๆ มาอ้างอิงหรือพิสูจน์ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตนอกโลกหรือแม้แต่ดาวเคราะห์ที่เหมือนกับโลกที่อยู่ไกลออกไปหลายๆ ล้านล้านปีแสง แล้วพัฒนาไปมากจนสามารถเดินทางออกไปในอวกาศได้เป็นระยะทางไกลแล้วมาพบโลกเราเป็นต้น พวกเค้าจึงลงมาสำรวจ จึงทำให้มีหลักฐานภาพถ่ายต่างๆ หรือเรื่องเล่าต่างๆ มากมายเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ส่วนยานพาหนะ ที่เค้าใช้ในการเดินทางเราก็เรียกว่า "ยูเอฟโอ" (UFO - Unidentified Flying Object) ถ้าเปรียบเทียบกับมนุษย์มันก็เหมือนกับกระสวยอวกาศที่เราได้ยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อเดินออกไปในอวกาศแต่ว่า มันก็ยังไม่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะทำได้อย่างเค้า อย่างมากตอนนี้เราก็สามารถที่จะสร้าง "สถานีอวกาศ"

ซึ่งเป็นที่ๆเราใช้ในการอยู่อาศัยเพื่อทำการศึกษาหรือทดลองทางอวกาศเท่านั้น ปัจจุบันเราสามารถที่จะเดินทางไปยังอวกาศได้ง่ายขึ้น ดังที่เราจะเห็นข่าวอยู่เรื่อยๆว่าเหล่าบรรดามหาเศรษฐีเดินทางไปกับมนุษย์อวกาศ โดยจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นเงินจำนวนมหาศาลเพื่อให้ได้ประสพการณ์ที่พิเศษที่น้อยคนนักที่จะมีโอกาศ โครงการต่างๆของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ก็ได้ทำการทดสอบและทดลองทางวิทยาศาสตร์ต่างๆมากมา สหรัฐอเมริกาซึ่งคือหนึ่งในผู้นำของการศึกษาวิจัย "นาซ่า" (NASA) คือหน่วยงานวิจัยทางด้านอวกาศ ที่มีนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิของโลกทำงานวิจัยอยู่จำนวนมาก

        หนึ่งในโครงการวิจัยที่ทำให้มนุษย์เข้าใกล้จักรวารของเราได้มากที่สุดก็คือ "กล้องอวกาศฮับเบิ้ล" ( Hubble Space Telescope)

มันเป็นกล้องถ่ายภาพคุณภาพสูงที่ล่องลอยอยู่ในอวกาศเพื่อถ่ายภาพต่างๆที่เกิดขึ้นในอวกาศ รวมทั้งภาพของดวงดาวต่างๆ ทีปรากฏขึ้นในขึ้นในอวกาศ ซึ่งไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน คุณสามารถเข้าไปชมภาพต่างๆ ได้ที่ HubbleSite
ภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่สิ่งเดียวที่พวกเค้าพยายามอธิบายก็คือ การจุดระเบิดในรูปแบบต่างๆ บางภาพสวยงามจนไม่สามรถอธิบายได้ว่า มันคืออะไร ทั้งๆที่มันอยู่นอกโลกไกลออกไปหลายหมื่นล้านปีแสงและนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ได้รับเท่านั้นเองหร๋อ?

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า มนุษย์นั้นพยายามศึกษาค้นคว้าหาสิ่งที่อยู่นอกโลกที่ไกลออกไปเพื่อพยายามหาคำตอบว่า ชีวิต, โลก, จักรวารของเราเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แต่มนุษย์ก็จะไม่ได้คำตอบอะไรเพราะมันไม่มีอะไร คนนั้นคือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเคยกล่าวไว้ว่า มีสิ่งที่มนุษย์ไม่ควรสนใจหรือตั้งข้อสงสัย เรียกว่า "อจินไตย" เพราะว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไร แต่ควรจะสนใจหรือศึกษาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากที่สุดนั่นก็คือ จิตใจของเรานั่นเอง

To be continue...

Tuesday, February 23, 2010

Linux - ลีนุกซ์ คืออะไร part II

บทความที่แล้ว คุณก็ได้รู้จักและเข้าใจการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์รวมถึงได้รู้ว่า เจ้าระบบปฏิบัติการมีหน้าที่และมีความสำคัญอย่างไร บางคนอาจจะสงสัยว่าแล้วนอกจากไมโครซอฟร์ (Microsoft WindowsXP, WindowsVista และล่าสุด Windows7) มันมีตัวเลือกอื่นที่ให้เราเลือกใช้ด้วยหร๋อ ก็ในเมื่อเกิดมาก็ใช้ Windows แล้วอ่ะ (ของเถื่อนน่ะ - -" ) ลองมาดูว่าเรามีตัวเลือกอะไรให้เลือกใช้กันบ้างในโลกนี้

      
  • Mac OS อันนี้เป็นระบบปฏิบัติการที่เกิดมาพร้อมๆกับ Microsoft Windows อาจจะก่อนด้วยไปซะด้วยซ้ำ เป็นของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) หลายๆ คนคงรู้จักกันดีกับสินค้าของเค้า ไม่ว่าจะเป็น MacintoshMacBook, iPod, iPhone และล่าสุด iPad


  • Linux OS อันนี้คือพระเอกของบทความนี้ จริงๆแล้วระบบปฏิบัติการนี้ก็มีอายุหรือเวลาในการเกิดมาพร้อมๆ กับ OS ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด เพียงแต่ว่าในขณะนั้นเจ้าลีนุกส์นี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง จะมีก็แต่เพียงกลุ่มนักศึกษาและนักวิจัยซึ่งสนใจและนำมาใช้งานเฉพาะด้าน จริงๆแล้วทั้ง Mac OS และ Linux OS นั้นจัดอยู่ในกลุ่มตระกูล Unix OS เอาไว้พูดถึงวันหลังก็แล้วกัน ความตั้งใจของคนที่สร้างเจ้าลีนุกส์นี้ เนื่องจากเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วนั้น เจ้า OS ที่มีให้เลือกใช้และเสียเงินนั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่เราจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อหามาใช้จึงเป็นที่มาของมัน คนที่สร้างเป็นนักศึกษาคอมพิวเตอร์ในขณะนั้นและต้องการให้เป็นของฟรี ใครๆก็สามารถนำไปใช้งานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากมันสามารถทำงานได้อย่างดีและยังมีกลุ่มนักพัฒนาจากทั่วโลกทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต ได้ช่วยกันร่วมตรวจสอบและแก้ไขจนสามารถทำงานได้เทียบเท่ากับ Unix OS รุ่นพี่ จึงได้รับการยอมรับมาจนถึงปัจจุบันและมีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลด้านล่างคุณจะเห็นได้ว่า ปริมาณผู้ใช้งานลีนุกส์มีแค่เพียง 1%


Usage share of web client operating systems. Source: Median values from Usage share of operating systems.     Windows XP (58.64%)     Windows Vista (23.25%)     Windows 7 (7.70%)     Mac OS X (5.12%)     Linux (1.04%)     iPhone (0.72%)     Other (1.32%)



        


     จริงๆแล้วมันยังมีอีกหลาย OS น่ะ เพียงแต่ว่ามันจะไกลตัวผู้ใช้งานทั่วๆไป แล้วทำไมจะต้องใช้ลีนุกส์หล่ะ? เป็นคำถามที่ดี งั้นไปดูที่ Linux - ลีนุกซ์ คืออะไร part III